คนที่เคยอ่านหนังสือของผมเล่มที่ชื่อว่า “มหัศจรรย์แห่งควอนตัมกับพลังจิตใต้สำนึก” จะเข้าใจเรื่องนี้ดี

หมายความว่า ทุกอย่างมีชีวิตในฐานะเป็นพลังงานที่สั่นสะเทือนและมีการรับรู้ได้ และพลังงานนั้นจะสะท้อนกลับมาสู่ตัวเราในทำนองเดียวกัน

ที่สำคัญก็คือ ทุกอย่าง ไม่ว่าจะมีคน สิ่งของ วัตถุทุกชนิด ล้วนมี “ความจำ” ที่กักเก็บไว้ แล้ววันหนึ่งมันจะปล่อยพลังออกมา

ย้ำอีกทีว่า สิ่งของทุกอย่างมีการบันทึกเรื่องราวเป็นความทรงจำเอาไว้ได้ในตัวเอง มันจะดูดซับเรื่องราวเอาไว้ในตัวมันเองแล้วจะปล่อยพลังงานเหล่านั้นออกมา

นี่คือเหตุผลที่ว่าเราต้องมีความสุขให้บ่อยที่สุด บางทีต้องหาอะไรมากระตุ้นให้ตัวเองมีความสุข เพราะสิ่งแวดล้อมเรา รวมทั้งเสื้อผ้า กระเป๋าสตางค์ หรือโทรศัพท์มือถือจะจำความสุขที่เรามี แล้วมันก็จะดึงดูดความสุขเข้ามา เพราะมันจำความสุขได้นั่นเอง นี่เป็นเรื่องที่ฟังดูเหมือนเหลือเชื่อหรือเรื่องประหลาด แต่เป็นเรื่องจริง? ด้วยเหตุนี้เวลาเราผลิตกระเป๋าสตางค์จึงได้อบเงินจำนวนมากในกระเป๋าสตางค์ทุกใบก่อนส่งให้ลูกค้าเสมอ เพราะเมื่อกระเป๋าจำได้ว่าเคยมีเงินจำนวนมากอยู่ในนั้น มันจะสร้างพลังดึงดูดทำนองเดียวกันเข้ามาซ้ำ นี่คือกฎแห่งการดึงดูดในระดับลึกซึ้งน้อยคนที่จะรู้

แต่หากไม่เชื่อ ลองเข้าไปอาศัยในบ้านที่คู่สามีภรรยามีการหย่าร้างหรือทะเลาะวิวาทบ่อยๆ หากคุณไปอยู่ในบ้านในโดยใช้เฟอร์นิเจอร์ ตู้ เตียงนอนเดิม วันหนึ่งคุณจะเป็นแบบนั้น เพราะเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทโต้เถียงของคู่สมรสคนก่อนถูกจดจำบันทึกไว้ในพลังงานระดับควอนตัมของเฟอนิเจอร์ กำแพงบ้าน หรือสิ่งของเครื่องใช้ เรื่องแบบนี้หลายคนอาจไม่เชื่อ หากเป็นเช่นนั้น อยากให้ทดลองดู

ด้วยเหตุนี้ จึงอยากให้คุณจัดบ้าน จัดที่ทำงาน จัดกระเป๋าสตางค์เสียใหม่ อะไรที่อยู่ในบ้านหรืออยู่ในที่ทำงาน แล้วไม่ทำให้คุณรู้สึกดีก็จงทิ้งไปเสีย ไม่อย่างนั้นมันจะส่งพลังไม่ดีมาหาคุณ อะไรที่ไม่ทำให้เรามีความสุขก็จงอย่าอยู่ใกล้ และจงอย่าสร้างสภาวะโต้เถียงขึ้นในบ้านหรืออย่าบ่นในบ้านบ่อยเกินไป เพราะสิ่งของเครื่องใช้จะจำเหตุการณ์นั้นแล้วมันจะปล่อยพลังลบออกมาทำให้เกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันเกิดขึ้นซ้ำ นี่เป็นเรื่องน่ากลัวมาก

ด้วยความปรารถนาดีของคนศึกษากฎแห่งการดึงดูดครับ